15 มีนาคม 2565 เวลา 20.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมสนทนา ในรายการ CARE Talk ตอน “มานี่…พี่จะบอก ประยุทธ์ทำแพง ประชาชนจะหมดแรงแล้ว แม๊!!” กล่าวถึงกระแสการยุบสภา หลังการประชุมเอเปค ว่า จริง ๆ แล้วนายกฯ ต้องเจออีก 3 ขั้นตอนอย่างน้อย อันแรกคือ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ต้องตัดสินใจว่าจะรับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน หรือยุบสภาก่อน เพราะกฎหมายบอกว่า ถ้าฝ่ายค้านยื่นปั๊บ ยุบไม่ได้แล้ว ถ้าแพ้โหวตก็ต้องออก นายกฯต้องตรวจแถว ว่าเกินครึ่งไหม ถ้ามั่นใจก็ยอมให้ฝ่ายค้านอภิปราย ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายมาถึงจุดหนึ่ง ถ้าแพ้ก็ต้องลาออก เป็นสเต็ป 2 อันดับ 3 คือ เมื่อท่านอยู่ครบ 8 ปี เดือนสิงหาคม ต้องตีความว่า เป็นนายกฯ ครบ 8 ปี เพราะเจตนารมณ์คือไม่ต้องการให้ใครอยู่นาน จึงร่างกฎหมายฉบับนี้เอง แก้บาลีคงยาก คงไม่ทันได้เอเปค
“เป็นนายกฯแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเขายังทำมาแล้วเลย กลัวอะไรกับเรื่อง 8 ปี ผมไม่แน่ใจว่าวันที่ 22 นี้ ท่านนายกฯ จะชิงยุบสภาก่อนเพื่อจะลงเลือกตั้งใหม่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่นายกฯ คิดไว้ แต่ก็ยังไม่สามารถไปตีความได้ว่านายกฯ จะอยู่เกิน 8 ปีได้หรือเปล่า ซึ่งเอาจริง ๆ นายกฯเขาสามารถนะ เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเขายังทำมาแล้วเลย ผมเลยไม่แน่ใจว่าคราวหน้าเนี่ยพอครบ 8 ปี แล้วเขาอาจจะบอกว่าไอ้ที่ 8 ปีเนี่ย ยังไม่ได้เป็นนายกฯ พึ่งเป็นนายกฯได้ 2 ปีกว่าก็ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกัน กลัวอะไรกับเรื่อง 8 ปี เพราะเรื่องกระบวนการยุติธรรมบ้านเราเนี่ย มันแล้วแต่ว่าจะตัดสินให้ใคร มันก็จะลำบากหน่อย” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็ก ว่า วันก่อนเขามาหาผมที่สิงคโปร์ บอกว่า เราจะใช้เทคโนโลยีและทริค เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เท่าตัวเลย ตนก็ถามว่า เงินเราก่อหนี้สาธารณะก็ลำบากและมีหนี้ครัวเรือนสูงมาก จะทำอย่างไรให้คนมีกำลังซื้อ เขาบอกว่าสงสัยต้องทำกำลังซื้อสองทาง เด็กรุ่นใหม่เขาพูดเรื่องเทคโนโลยี ตนก็ว่าใช่เป็นไปได้ เขาบอกกำลังคิดให้ตกผลึกก่อน นี่คือเด็กรุ่นใหม่เขาคิดกัน ว่าปัญหาของประเทศเป็นแบบนี้ ถ้าเราออกทางเดิมไม่ได้ ก็ต้องทางใหม่ไปช่วยครัวเรือน เพราะภาครัฐไม่ไหวแล้วหนี้ครัวเรือนก็เยอะ ส่วนรัฐบาลหน้าจะไหวหรือไม่นั้น ถ้าใครบอกว่าแก้ง่าย ตนว่าไม่จริง แก้ยากแต่แก้ได้ไหม เชื่อว่าแก้ได้ เหมือนที่น้องอุ๊งอิ๊งมาปรึกษา เขาใช้ความคิดเด็กรุ่นใหม่ เทคโนโลยีต่างๆ ตนฟังแล้วเข้าท่า ตนเป็นคนชอบเรียนรู้จากเด็ก ให้ความสุขุมรอบคอบเขาไป เป็นงานหนักที่ทำได้
นายทักษิณ กล่าวถึงกรณีเดินทางไปยังสิงคโปร์ว่า ตนได้อยู่ที่สิงคโปร์ 8 วัน ได้มีโอกาสพบกับนักธุรกิจสิงคโปร์ รวมถึงนักธุรกิจจีน ทั้งยังได้พูดถึงเทคโนโลยี 6 จี ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองพรรคเล็กพรรคน้อยแย่งกันเป็นเจ้าภาพ มีคนอยากเลี้ยงหนู ๆ พรรคเล็กทั้งหลาย วันนี้ก็มีงานเลี้ยงนายกฯ ก็คิดว่า พรรคเล็กก็คงขอบคุณมาก อิ่มดี ได้เป็น ส.ส.ปัดเศษ มาถึงก็มีอาหารอุดมสมบูรณ์ดี
“อีกอันที่มีข่าวไป ก็คือ มีคนไทยมาเยี่ยมผม ทั้งนักการเมืองและไม่ใช่นักการเมือง ความจริงก็เป็นเรื่องธรรมดาไหม เด็ก ๆ มาเยี่ยมผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงานมาเยี่ยมกัน ก็ธรรมดาไหม ถูกต้องตามวัฒนธรรมประเพณีไทยไหม มีนักร้องทะลึ่งไปร้อง หาว่าให้สอบจริยธรรม ผมก็เลยบอกว่าเอ๊ะต้องสอบจริยธรรมนักร้องไหม ที่ร่ำรวยผิดปกติทั้งหลาย” นายทักษิณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ ยังได้เปิดซิงเกิ้ลใหม่ในรอบ 10 ปี ของนายทักษิณ “เกิดมาเป็นนักสู้” อีกด้วย โดยมีเนื้อหาคร่าวๆ ว่า “แม้จะเจอกับประสบการณ์ไม่ซ้ำกับใคร ทั้งทุกข์และสุข ทุกๆ ก้าวมีราคาที่ต้องจ่าย ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ต้องทำทุกอย่างในหนทางข้างหน้า ฟันฝ่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าเจออะไร และเกิดมาต่อสู้เพื่อคนไทย เคียงข้างคนไทย มอบความหวังสร้างชีวิตใหม่ เป็นฝันอันยิ่งใหญ่”.